นายกรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หารือหน่วยงานครอบครองที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ นำมาพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย สานต่อนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ หลังพัฒนาและปรับปรุงที่อยู่อาศัยแล้วกว่า 82,000 หน่วย
นายกรัฐมนตรี มีนโยบายมุ่งลดความเหลื่อมล้ำทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่านหลายมาตรการ รวมถึงโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้น
คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (กตน.) ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินโครงการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือน ก.ค. 63 - มี.ค. 65 ทั้งในส่วนของการพัฒนาโครงการใหม่ แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยที่ทำกิน ตลอดจนการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ได้มาตรฐานรวมแล้ว 82,193 หน่วย
นายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหาและข้อจำกัดในส่วนของที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการเนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้น เพื่อให้การสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยเดินหน้าต่อไปได้ต่อเนื่อง จึงมอบหมายกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไปหารือกับหน่วยงานที่ครอบครองที่ดินแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ โดยอาจตกลงกันเป็นสัญญาเช่าระยะยาว โดยให้ดูแลทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย
กตน. รายงานว่า ระหว่างเดือนก.ค.63-มี.ค. 65 กคช.และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรวม 82,193 หน่วย ประกอบด้วย
(1) สร้างโอกาสให้กับประชาชนมีที่อยู่อาศัยในทุกระดับรายได้ โดยส่งมอบที่อยู่อาศัยให้ประชาชนรวม 14,703 หน่วย ประชาชนได้รับประโยชน์ 44,109 คน
(2) แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน และสร้างชุมชนน่าอยู่ ดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งในส่วนของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่1-2 โครงการอากาคาเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ระยะที่1-2 รวม 4,460 หน่วย ประชาชนได้รับประโยชน์ 13,380 คน
(3)พัฒนาและสนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน รวม 63,030 หน่วย
#PMOC
#ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี
|